การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งมีสุขภาพที่แข็งแรงเป็นปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งที่ส่งเสริมให้บุคคลนั้นประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ อาทิเช่น ด้านการศึกษา ด้านการทำงาน เป็นต้น เนื่องจากผู้มีสุขภาพแข็งแรงจะมีความสามารถทางร่างกาย จิตใจ และเวลามากกว่าคนที่ไม่แข็งแรง จึงอาจจะกล่าวได้ว่า การมีสุขภาพดีนั้นเป็นเรื่องที่คนทุกคนปรารถนา ดังพุทธสุภาษิตที่ว่า “ อโรคา ปรมา ลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ซึ่งการที่เราจะมีสุขภาพที่ได้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการขอพรจากสิ่งศักดิ์ แต่เราทุกคนสามารถสร้างได้ด้วยตัวเอง คือการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง เช่น การพักผ่อนที่เพียงพอ รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น โดยเฉพาะการออกกำลังกายนั้นเป็นทั้งยาป้องกันโรค ยารักษาโรค และยาบำรุงอย่างดีที่ไม่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากไปหาซื้อ ดังนั้นการออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อคนทุกเพศทุกวัย
การออกกำลังกายแบบเพิ่มความแข็งแรง
การเลือกการออกกำลังกายแบบเพิ่มความแข็งแรงเข้าไปในโปรแกรมการออกกำลังกายของคุณ จะช่วยพัฒนาการจัดท่าทางร่างกายที่ถูกต้องและช่วยเสริมบุคลิกภาพของคุณได้ นอกจากนี้การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อยังเป็นการช่วยรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ได้ เพราะกล้ามเนื้อสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าเนื้อเยื่ออื่นๆแม้ในขณะพัก จึงนับเป็นผลกำไรอีกอย่างหนึ่งของการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายแบบเพิ่มความแข็งแรงเป็นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อสู้กับแรงต้านทาน คุณจึงอาจคุ้นกับคำว่าการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน ซึ่งสามารถใช้แผ่นยางยืด ดัมเบล เครื่องยกน้ำหนัก หรือแม้แต่ใช้น้ำหนักตัวคุณเองเป็นแรงต้านในการออกกำลังกาย โดยมีเป้าหมายคือการออกกำลังกายกล้ามเนื้อมัดหลักๆทั่วร่างกายให้ได้ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ต้องไม่ใช้น้ำหนักมากจนเกินไป ให้คุณหาระดับความหนักที่พอเหมาะสำหรับตนเองในการออกกำลังกายให้ได้ยกละ 8 – 12 ครั้ง คุณอาจจะตั้งใจออกกำลังกายด้วยการไปที่ห้องออกกำลังกายหรือยกน้ำหนักที่บ้าน แต่กิจกรรมในชีวิตประจำวันหลาย ๆ อย่าง เช่น การหิ้วของหรือการทำสวนก็ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้เช่นกัน
การออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น
– ถ้าคุณไม่ค่อยได้ยืดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ ก็มีโอกาสที่กล้ามเนื้อนั้นจะหดตัวลงและลดความยืดหยุ่น ซึ่งจะทำให้ข้อต่อยึดติดและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่าย ดังนั้นจึงควรออกกำลังกายแบบยืดหยุ่นกับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ทุกส่วนของร่างกายเป็นประจำทุกวัน
– โยคะ พิลาทิส และ ไทเก็ก เป็นการออกกำลังกายที่เน้นความนุ่มนวลและการยืดหยุ่น การที่คุณค่อยๆผ่อนคลายและยืดกล้ามเนื้อในท่าทางต่างๆค้างท่าไว้สักระยะ พร้อมกับตั้งสมาธิจดจ่ออยู่ที่ลมหายใจ จะทำให้ร่างกายมีทั้งความยืดหยุ่นและความแข็งแรงเพิ่มขึ้น อีกทั้งทำให้คุณได้ผ่อนคลาย การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ร่างกายมีความสมดุลและเสริมบุคลิกภาพที่ดี
ข้อปฏิบัติที่สำคัญ
– การเดิน การเล่นฟุตบอลและการว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ดีและใช้อุปกรณ์เสริมไม่มาก คุณยังสามารถออกกำลังกายโดยลำพังหรือออกกำลังกายร่วมกับเพื่อนๆได้ด้วย
– พยายามยืดเหยียดกล้ามเนื้อหรือเล่นโยคะทุกวัน เพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวข้อต่อและป้องกันการบาดเจ็บ
– พยายามออกกำลังกายแบบเพิ่มความแข็งแรงให้ได้ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง